29 ตุลาคม 2025 วันโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Day) โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี และมีผู้ป่วยใหม่ 1 คน ในทุก ๆ 3 วินาที ในขณะที่ผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลกรอดชีวิต แต่ชีวิตกลับพลิกผันภายในชั่วข้ามคืน และต้องใช้ชีวิตพิการถาวรไปตลอดชีวิต การรู้ทันและเข้าใจสัญญาณ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตแล้ว ยังช่วยลดโอกาสอัมพฤกษ์ อัมพาต (Paralysis) ได้อีกด้วย
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) คือโรคอะไร

โรคหลอดเลือดสมอง หรือสโตรก คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงกะทันหัน ซึ่งอาจเกิดจากหลอดเลือดตีบหรือ หลอดเลือดในสมองแตก (เลือดออกในสมอง) ส่งผลให้เซลล์สมองโดนทำลายภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งสมองเป็นอวัยวะที่ควบคุมการทำงานของร่างกายเกือบทั้งหมด ถ้าสมองส่วนใดส่วนหนึ่งเสียหาย จะทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมา เช่น ภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต พูดไม่ชัด สื่อสารไม่ได้ สับสน มีปัญหาเรื่องความจำ ไปจนถึงการเสียชีวิต
5 สัญญาณเตือน Stroke ตามหลัก F.A.S.T

ทุก ๆ วันที่ 29 ตุลาคมของทุกปีจะเป็นวันโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Day) เพื่อกระตุ้นให้คนทั่วโลกตระหนักถึงภัยเงียบของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ การรู้ทันสัญญาณเตือนสโตรกที่จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และลดความเสี่ยงการเป็นอัมพาตหรือเสียชีวิต โดยหนึ่งในวิธีจำง่ายที่สุด คือ หลัก F.A.S.T ซึ่งเป็นตัวย่อภาษาอังกฤษ ที่บอกถึง 5 สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าพบอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องรีบพาคนไข้ไปโรงพยาบาลทันที
- F – Face : มุมปากตก หน้าชา หรือหน้าไม่เท่ากัน
- A – Arm : แขนหรือขาอ่อนแรง (ซีกใดซีกหนึ่ง) ยกไม่ขึ้น หรือหล่นลงเอง
- S – Speech : ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด ไม่เป็นคำ พูดตะกุกตะกัก พูดช้า หรือฟังแล้วจับใจความไม่ได้
- T – Time : ทุกวินาทีมีค่า ถ้าพบอาการเหล่านี้แค่อย่างเดียว ต้องรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที (เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้)
นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการปวดหัวรุนแรงฉับพลัน (ปวดที่สุดในชีวิต) คลื่นไส้ อาเจียน ตามัวหรือมองเห็นซ้อน เวียนหัว สูญเสียการทรงตัว เป็นต้น
ทำไมต้องรีบไปโรงพยาบาลภายใน 4.5 ชั่วโมง
เพราะโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่เวลา คือ สิ่งสำคัญที่สุด ทุกนาทีที่สมองขาดเลือด หรือได้รับความเสียหาย เซลล์ประสาทจะเสียหายเป็นล้าน ๆ เซลล์ ยิ่งช้าเท่าไร เซลล์สมองยิ่งเสียหายมากขึ้นเท่านั้น และจากการศึกษาทั่วโลกพบว่า ระยะเวลาที่สามารถรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือดได้ดีที่สุด คือ การรักษาภายใน 4.5 ชั่วโมงแรก (นับตั้งแต่เริ่มมีอาการ) โอกาสรอดจากความพิการถาวรจะสูงมากขึ้นเท่านั้น
หยุด Stroke ก่อนเกิด เริ่มต้นจากพฤติกรรมใกล้ตัว

สำหรับวิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง เริ่มต้นได้ง่าย ๆ แค่ปรับ 6 พฤติกรรมการใช้ชีวิตเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- พักผ่อนให้เพียงพอ (6-8 ชั่วโมงต่อวัน)
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยงของมัน ของทอด อาหารแปรรูป อาหารรสจัด
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
- ตรวจสุขภาพประจำปี
- ถ้ามีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ควรรับประทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หรือขาดยา
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
29 ต.ค. วันโรคหลอดเลือดสมองโลก โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนกว่า 6 ล้านคนต่อปี และมีผู้ป่วยใหม่ทุก ๆ 3 วินาที แต่โรคนี้สามารถป้องกันได้ แค่รู้ทัน 5 สัญญาณ F.A.S.T หน้าเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด เวลา คือหัวใจ รีบไปโรงพยาบาลภายใน 4.5 ชั่วโมง และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น กินดี นอนพอ ออกกำลังกาย ตรวจสุขภาพ และงดบุหรี่/แอลกอฮอล์
สำหรับผู้ที่สนใจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือใช้บริการฟื้นฟูหลังเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- ศูนย์ PNKG Recovery and Elder Care ชั้น 2 โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ตั้งแต่เวลา 8:30 – 17:30 น. จันทร์ – เสาร์ (ปิดบริการวันอาทิตย์)
- โทร : 080-910-2124
- Line : PNKG
- Facebook : PNKG Recovery and Elder Care