รู้หรือไม่? โรคหลอดเลือดสมองหรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “สโตรก” คือภัยเงียบที่แสนอันตรายและนับเป็น 1 ใน 5 ของโรคที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประเทศไทย!!
“ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีจำนวนมากขึ้น เป็นได้ทุกเพศทุกวัย ความน่ากลัวของโรคคือเป็นภัยเงียบที่ไม่ส่งสัญญาณล่วงหน้า ในทุก 6 วินาที จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 1 คน มีผู้ป่วยใหม่ 13.7 ล้านคน เสียชีวิตร้อยละ 5 พิการร้อยละ 70 ในบริบทประเทศ โรคหลอดเลือดสมองยังคงเป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย รวมถึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มของจำนวนผู้สูงอายุที่สูงขึ้นในทุกปี”
– นายแพทย์ วุธิกรณ์ พันธุ์ประสิทธิ์ –
มาตรฐานการฟื้นฟู (กายภาพ) “ไทย” สู่ “สากล”
จากการศึกษาของคุณ ยูกิ ฟุรุยะ ผู้อำนวยการศูนย์ PNKG Recovery Center ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา และการศึกษาวิจัยศูนย์ฟื้นฟูมากกว่า 1,000 แห่งในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เห็นว่า ประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่ดีอันดับ 6 ของโลกจาก 89 ประเทศ อีกทั้งยังมีความพร้อมด้านจำนวนผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพสูง แต่อาจขาดผู้ให้บริการฟื้นฟูตามมาตรฐานสากล หากได้รับการพัฒนาคุณภาพ ก็สามารถเป็นศูนย์ฟื้นฟูที่ดีที่สุดใน Southeast Asia ได้
“สโตรก” สามารถฟื้นฟูให้กลับมาใกล้เคียงปกติมากที่สุดได้ หากได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกวิธีและตรงจุด
1. การพาผู้ป่วยเคลื่อนไหวหลังผ่านช่วงวิกฤต (Acute Phase) ภายใน 24-48 ชั่วโมง
การนำผู้ป่วยขยับออกจากเตียงนับเป็นช่วงสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นรักษาผู้ป่วยสโตรก จากงานวิจัยพบว่า การฟื้นฟูแบบเร่งด่วนช่วยเพิ่มอัตราการฟื้นฟูของผู้ป่วยได้ การลุกขึ้นนั่งหรือขยับออกจากเตียงภายใน 24-28 ชั่วโมงจะช่วยให้ผู้ป่วยพร้อมสำหรับการฝึกได้เร็วขึ้น
2. การเรียนรู้ผ่านประสาทยนต์ (Motor Learning)
การเคลื่อนไหวของมนุษย์ถูกควบคุมโดยระบบประสาทส่วนกลางในสมองและตัวรับรู้ความรู้สึก การฝึกซ้ำๆ ช่วยให้สมองจดจำกระบวนการเหล่านี้ได้ เหมือนเด็กฝึกเล่นเปียโนหรือปั่นจักรยาน ผู้ป่วยสโตรกจำเป็นต้องใช้การฝึกนี้ร่วมกับการฝึกความแข็งแรงทั่วไปเพื่อเรียกความสามารถในการเคลื่อนไหวกลับมา
3. กายฝึกด้านกายภาพ
การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ องศาการเคลื่อนไหว และการประสานสัมพันธ์ของร่างกายช่วยพัฒนาความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่น การออกกำลังกายท่าคุกเข่า
4. การฝึกการทำกิจวัตรประจำวัน (ADL)
การฝึกการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การฝึกรับประทานอาหาร และ การฝึกเข้าห้องน้ำ จะช่วยพัฒนาความสามารถในการดูแลตนเอง และการเตรียมสภาพแวดล้อมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. การฝึกความคิดความเข้าใจ (Cognitive Function Training)
การฟื้นฟูการรับรู้ความเข้าใจเป็นการรักษาที่วางเป้าหมายในการพัฒนาสมองในส่วนของความคิดและความเข้าใจ โดยปรับเปลี่ยนการฝึกให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
6. การฝึกโดยเจาะจงข้างที่อ่อนแรง (Constraint-Induced Therapy)
การฝึกเจาะจงข้างที่อ่อนแรงช่วยฟื้นฟูการทำงานของมือในผู้ป่วยสโตรก โดยจำกัดการใช้งานมือข้างที่แข็งแรง
7. การฝึกโดยใช้กายอุปกรณ์
การใช้กายอุปกรณ์ช่วยป้องกันการผิดรูปของข้อต่อและการเกิดอาการปวด ช่วยในการปรับรูปแบบการเดินให้ใกล้เคียงกับการเดินปกติ
วิธีการและบทความที่กล่าวมาทั้งหมด คือหลักการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในระดับสากลที่ศูนย์ PNKG Recovery Center นำมาใช้
หากท่านสนใจรับบริการฟื้นฟูร่างกายควบคู่กับการดูแลทางด้านจิตใจ ด้วยศาสตร์แห่งไคโก-โดะ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ PNKG Recovery and Elder Care ชั้น 2 โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ หรือ คลิกที่นี่เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม