แชร์ 3 แนวทางในการดูแลผู้ป่วย Stroke ระยะฟื้นฟู และเทคนิคการดูแลคนไข้ Stroke อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เริ่มต้นการฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke ยังไงให้มีคุณภาพ เพราะการฟื้นฟูโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ในระยะฟื้นฟู เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ป่วยและครอบครัวควรให้ความสำคัญ เนื่องจาก เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด การดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพหรือใกล้เคียงกับปกติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทำไมการฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke ในระยะฟื้นฟู (Recovery Phase) ถึงมีความสำคัญ

ระยะฟื้นฟู (Recovery Phase) หรือ Golden Period เป็นช่วงเวลาสำคัญผู้ป่วยมากที่สุด เนื่องจากช่วงเวลานี้สมองมีการฟื้นฟูและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยช่วงเวลาที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุดจะอยู่ในช่วง 0-6 เดือน โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่มีอาการ ซึ่งการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายจะมีประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยได้รับการทำกายภาพบำบัดอย่างเข้มข้น (Intensive Rehabilitation) ไปพร้อม ๆ กับการทำกิจวัตรประจำวัน (ADL) เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วยตัวเองได้มากที่สุด หรือคนในครอบครัวให้การช่วยเหลือน้อยที่สุดตามศาสตร์ไคโกะโดะ (ศาสตร์การฟื้นฟูของญี่ปุ่น)
ดังนั้น การดูแลผู้ป่วย Stroke ระยะฟื้นฟู จึงเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้งนั่นเอง โดยความสำคัญของการดูแลผู้ป่วย Stroke ระยะฟื้นฟูในงานวิจัย สามารถแบ่งได้ 4 ประเด็นหลัก ๆ ได้แก่
เพิ่มโอกาสในการฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke
เมื่อได้รับการทำกายภาพบำบัดอย่างเข้มข้น และฝึกการทำกิจวัตรประจำวันไปพร้อม ๆ กัน สมองจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง และสร้างเซลล์ประสาทใหม่ที่เรียกว่า Neuroplasticity เพื่อทำงานทดแทนเซลล์สมองที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูความสามารถในการเคลื่อนไหว การสื่อสาร การรับรู้และความเข้าใจได้
เพิ่มโอกาสให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง

การทำกายภาพบำบัดที่ถูกต้องและเหมาะสม นอกจากจะช่วยให้สมองสร้างเซลล์ประสาทใหม่แล้ว ยังช่วยให้กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการทรงตัว ซึ่งเป็นพื้นฐานของการยืนและการเดินตามลำดับ ช่วยลดความเสี่ยงในการล้ม และยังลดอาการเจ็บปวดจากการเคลื่อนไหวได้อีกด้วย
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
และที่สำคัญ การทำกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด (Occupation Therapy) อย่างต่อเนื่องยังช่วยลดความเสี่ยงข้อติด ป้องกันกล้ามเนื้อลีบ และแผลกดทับได้อย่างตรงจุด
ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะซึมเศร้า และลดการพึ่งพาสมาชิกในครอบครัว
เมื่อผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหว หรือช่วยเหลือได้ตัวเองได้มากขึ้น เช่น การอาบน้ำ แต่งตัว หรือรับประทานอาหารด้วยตัวเองได้ ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีความมั่นใจในการใช้ชีวิต สามารถทำกิจกรรมที่เคยชอบหรือเข้าสังคมได้อย่างมีความสุข
3 แนวทางในการดูแลผู้ป่วย Stroke ระยะฟื้นฟู

การฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke จะแบ่งได้ 3 แนวทาง โดยระยะเวลาในการทำกายภาพบำบัดและการทำกิจกรรมบำบัดจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่ผู้ป่วยหรือญาติต้องการ และความสามารถที่เหลืออยู่ของผู้ป่วยด้วย โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ระยะเฉียบพลัน (ช่วง 2 วัน – 2 สัปดาห์ หลังเกิดโรคหลอดเลือดสมอง)
ในช่วงนี้การฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke จะทำกายภาพบำบัดประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน โดยแบ่งเป็นหลายช่วงสั้น ๆ (เช่น ครั้งละ 20–30 นาที วันละ 2–4 ครั้ง) โดยจุดเด่นของการฟื้นฟูสมรรถภาพในช่วงนี้ จะโฟกัส
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ข้อติดหรือแผลกดทับ
- ฝึกการเคลื่อนไหวเบื้องต้นและการออกกำลังกายแบบ Passive และ Active
- เรียนรู้การเคลื่อนไหวพื้นฐานและการทำกิจกรรม เช่น การนั่ง การยืน หรือการกลืน
- ฟื้นฟูทักษะการสื่อสารและการทำงานของสมองในเบื้องต้น หากจำเป็น
ระยะกึ่งเฉียบพลัน (2 สัปดาห์ – 3 เดือน หลังเกิดโรคหลอดเลือดสมอง)
การดูแลผู้ป่วย Stroke ในช่วงนี้ จะใช้เวลาในการทำกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัดประมาณ 3 – 5 ชั่วโมงต่อวัน โดยในระยะนี้การฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke จะมีแผนการรักษาที่ชัดเจน และเป็นแนวทางการรักษาที่นิยมใช้ในสถานพยาบาลหรือคลินิกกายภาพบำบัด โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
- การทำกายภาพบำบัดอย่างเข้มข้น เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและความแข็งแรง
- การฝึกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน (ADLs) ผ่านนักกิจกรรมบำบัด
- ฟื้นฟูทักษะการสื่อสารและการกลืน
- ฟื้นฟูสมรรถภาพทางสมอง หากจำเป็น
**ระยะนี้มีความสำคัญที่สุดสำหรับการฟื้นฟู เนื่องจาก สมองมีความสามารถในการปรับตัว (Neuroplasticity) สูงสุด**
ระยะเรื้อรัง (3 เดือน หลังเกิดโรคหลอดเลือดสมอง)
ส่วนการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในระยะนี้ จะใช้เวลาในการทำกายภาพบำบัดประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมงต่อวัน ขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าและเป้าหมายของผู้ป่วย โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
- ฟื้นฟูทักษะและการทำงานในระยะยาว
- กลับเข้าสู่ชุมชนและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม
- รักษาผลลัพธ์ เพื่อป้องกันภาวะถดถอยทางร่างกาย (Disuse Syndrome)
4 ปัจจัยหลักที่มีผลต่อระยะเวลาการฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke

ความรุนแรงของโรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมองที่ไม่รุนแรง อาจต้องการการฟื้นฟูที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า ในขณะที่รอยโรครุนแรงอาจต้องใช้เวลาและความเข้มข้นมากขึ้น
ระดับความเหนื่อยล้าของผู้ป่วย
- ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมักมีอาการอ่อนเพลีย
- ดังนั้น การทำกายภาพบำบัดควรปรับให้เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้พลังงานมากเกินไป
สถานที่ทำกายภาพบำบัด
- โปรแกรมฟื้นฟูในสถานพยาบาลผู้ป่วยในมักมีการทำกายภาพบำบัดวันละ 3–5 ชั่วโมง
- การบำบัดแบบผู้ป่วยนอกหรือที่บ้านอาจใช้เวลาประมาณวันละ 1–2 ชั่วโมง
การปรับรูปแบบการฝึกให้เหมาะสมกับผู้ป่วย
- การฟื้นฟูสมรรถภาพควรเป็นแบบเฉพาะบุคคล และเพิ่มความเข้มข้นและระยะเวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามการฟื้นตัวของผู้ป่วย
- การพักเป็นระยะเวลาสำคัญ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวระหว่างช่วงการทำกายภาพบำบัด
- ทีมฟื้นฟูสมรรถภาพควรประเมินผลการฟื้นตัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำหนดความเข้มข้นและระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการบำบัดในแต่ละช่วงของการฟื้นฟู
สำหรับผู้ที่สนใจหรือกำลังมองหาศูนย์ฟื้นฟูหรือศูนย์กายภาพบำบัดหลังผ่าตัด ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และโรคอื่น ๆ ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยศาสตร์การฟื้นฟูร่างกายแบบไคโก-โดะ (Kaigo-Do) สามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- ศูนย์ PNKG Recovery and Elder Care ชั้น 2 โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ตั้งแต่เวลา 8:30 – 17:30 น.
- จันทร์ – เสาร์ (ปิดบริการวันอาทิตย์)
- โทร : 080-910-2124
- Line : PNKG
- Facebook : PNKG Recovery and Elder Care