กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy)

กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy) คือ? ฟื้นฟูผู้ป่วยยังไง

พัฒนาและฟื้นฟูสมรรถภาพให้กับคนที่คุณรักโดยนักกิจกรรมบำบัดผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์กับ PNKG ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางความสามารถและผู้สูงอายุ หนึ่งเดียวในไทยที่ใช้หลักการและแนวคิดเดียวกับมาตรฐานญี่ปุ่น พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยศาสตร์แห่งการฟื้นฟูไคโกะ-โดะ (Kaigo-Do) ที่เน้นให้ผู้ป่วยพึ่งพาตนเองเป็นหลัก และใช้ความสามารถที่เหลืออยู่อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมไขข้อสงสัยการทำกิจกรรมบำบัดมีความสำคัญยังไง? ช่วยฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้อย่างไร?

ชีวิตที่มีคุณภาพไม่ใช่แค่เรื่องของโชค แต่คือผลลัพธ์ของการดูแลอย่างถูกวิธี

เพราะสุขภาพที่ดีไม่ใช่แค่การไม่มีโรค แต่คือการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ กิจกรรมบำบัดจึงเป็นมากกว่าการรักษา เป็นแนวทางสำคัญในการคืนความสามารถในการใช้ชีวิตให้กับผู้ป่วยอย่างยั่งยืน เช่น การรับประทานอาหาร อาบน้ำ แปรงฟัน ใส่เสื้อผ้า เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดจำเป็นต้องดำเนินการโดย Occupational Therapist ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

นักกิจกรรมบำบัด คือใคร? มีความสำคัญอย่างไรต่อการฟื้นฟูผู้ป่วย

นักกิจกรรมบำบัด (Occupational Therapist) หรือ OT เป็นหนึ่งในบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมและได้รับใบประกอบวิชาชีพ ทำหน้าที่ในการประเมิน วิเคราะห์ปัญหา วางแผนการรักษาร่วมกับผู้ป่วยและครอบครัว พร้อมให้การรักษาและติดตามผลการรักษา ทั้งทางกายภาพ จิตใจ รวมถึง Cognitive Training กระตุ้นการรับรู้และความเข้าใจที่มีสาเหตุจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน (Parkinson) ได้รับบาดเจ็บ ฯลฯ

โดย Occupational Therapist ของ PNKG Recovery and Elder Care จะทำการประเมินและวิเคราะห์ผู้ป่วยแบบรายบุคคล เพื่อออกแบบโปรแกรมให้เหมาะสมและตอบโจทย์อาการผู้ป่วยมากที่สุด เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูทักษะให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาทำกิจกรรมและกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพาครอบครัวหรือผู้ดูแล และมีความสุขภาพกับการใช้ชีวิต

กิจกรรมบำบัด ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยได้อย่างไร?

ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง

การทำกิจกรรมหลากหลาย ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นประสาทและการเชื่อมโยงใหม่ในสมอง (Neuroplasticity) ช่วยพัฒนาการเรียนรู้และการปรับตัวของระบบประสาทได้เป็นอย่างดี

มีโปรแกรมฝึกฝนอย่างเป็นระบบ

โดยทั่วไปโปรแกรมกิจกรรมจะค่อย ๆ ปรับระดับความซับซ้อนขึ้นตามพัฒนาการของผู้ป่วย ซึ่งการมีโปรแกรมฝึกฝนอย่างเป็นระบบจะช่วยสร้างความคุ้นเคย และพัฒนาทักษะให้กับผู้ป่วยอย่างเป็นขั้นเป็นตอนได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ช่วยพัฒนาทักษะการประสานงานของระบบร่างกาย

และเพื่อให้การประสานงานของระบบร่างกายกลับมามีประสิทธิภาพมากที่สุด ยังมีกิจกรรมที่จะต้องใช้ทักษะหลายด้านพร้อมกัน เช่น ทักษะการเคลื่อนไหว การคิด และการสื่อสารไปพร้อม ๆ กัน การทำกิจกรรมประเภทนี้จะช่วยฝึกการทำงานประสานกันของระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างตรงจุด

ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วย

การที่ผู้ป่วยได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ จะช่วยเพิ่มความสนใจให้กับผู้ป่วย และที่สำคัญ ยิ่งทำกิจกรรมสำเร็จมากเท่าไร ก็ยิ่งช่วยเพิ่มแรงจูงใจ-ความมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ และเพื่อให้การฟื้นฟูสมรรถภาพมีประโยชน์สูงสุด คลินิกจะมีการฝึกกิจกรรมที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การแปรงฟัน การรับประทานอาหาร การอาบน้ำ เป็นต้น เพื่อให้ผู้ป่วยเรียนรู้ทักษะและพึ่งพาตัวเองได้มากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการช่วยเหลือจากครอบครัวหรือผู้ดูแล

คลินิกกิจกรรมบำบัด เหมาะกับใคร?

ตอบโจทย์ผู้ที่มีความต้องการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย จิตใจ หรือพัฒนาการ โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มโรค ดังต่อไปนี้

  • ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
  • ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
  • ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม
  • ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์
  • ผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัด
  • ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางสมอง

ข้อดีของการทำกิจกรรมบำบัด

กิจกรรม บำบัดเป็นวิธีการฟื้นฟูสมรรถภาพที่เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ สามารถยืดหยุ่นและปรับได้เหมาะสมของแต่ละบุคคล ครอบคลุมหลายทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยมีข้อดี ดังต่อไปนี้

  • ฟื้นฟูทักษะที่ใช้ในการทำกิจวัตรประจำวัน ช่วยให้ผู้ป่วยพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น
  • พัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อสาร
  • ฟื้นฟูสภาพจิตใจ ลดความเครียดและวิตกกังวล
  • ช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงในการหกล้ม
  • เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต

PNKG มีกิจกรรมบําบัดอะไรบ้าง?

OT ของ PNKG Recovery and Elder Care จะพิจารณาสาเหตุของอาการ ผลการประเมินและวิเคราะห์ความสามารถของผู้ป่วยเป็นหลัก ยกตัวอย่าง กิจกรรมที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น

  • กิจกรรมฝึกการทำงานของมือและนิ้ว (Fine Motor Skills) ฝึกการหยิบ การจับ และฝึกทักษะการใช้งาน เช่น การฝึกใช้ช้อนส้อม เกมจับคู่การ์ดหรือเรียงบล็อก เป็นต้น
  • กิจกรรมฝึกทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การรับประทานอาหาร การแต่งตัว การแปรงฟัน การอาบน้ำ เป็นต้น
  • กิจกรรมฝึกกลืนและการรับประทานอาหารด้วยตัวเอง
  • กิจกรรมฝึกสมาธิและฝึกวิเคราะห์ เช่น การพับกระดาษโอริกามิ (Origami) ปริศนาอักษรไขว้ (Crossword puzzles) ซูโดกุ (Sudoku)
  • ฝึกการรับรู้และพัฒนาความเร็วในการประมวลผล เช่น เกมจับคู่สี หรือรูปทรง

ทำไมถึงควรใช้บริการกับ PNKG ?

PNKG Recovery and Elder Care เป็นศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ครบครันด้วยทีมแพทย์สาขาเฉพาะทาง ทีมพยาบาลเวชศาสตร์ฟื้นฟู ทีมกายภาพบำบัด และนักกิจกรรม บำบัดที่มีความรู้ด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม และยังมีจุดเด่นอีกหลายด้าน ได้แก่

มาตรฐานการฟื้นฟูระดับสากล

ด้วยความรู้ ความเข้าใจ และความใส่ใจมาตรฐานเดียวกับประเทศญี่ปุ่นจากความร่วมมือ Nihon Keiei Group ที่มีประสบการณ์ด้านการดูแลผู้สูงอายุมากกว่า 50 ปี
ยกระดับคุณภาพการฟื้นฟูให้เหนือระดับไปอีกขั้น ด้วยการเสริมทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
มากกว่าผลลัพธ์ในการฟื้นฟู ทางเรายังให้ความสำคัญกับสภาวะจิตใจ สื่อสารด้วยความเข้าใจ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า
ออกแบบแผนการฟื้นฟูเฉพาะบุคคลด้วยทีมนักกายภาพบำบัดทั้งในไทยและญี่ปุ่น พร้อมกายอุปกรณ์ที่ทันสมัยและครบครัน
ห้องพักเน้นดีไซน์โปร่งสบาย มีปุ่มกดเรียกพยาบาล (Nurse Call) ในห้องพักและในห้องน้ำ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ให้ความสำคัญกับคุณภาพการฟื้นฟู ผู้ป่วย 1 ท่าน จะมีผู้ดูแลมากถึง 7 ท่าน (แพทย์ หัวหน้าเคส นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด นักวิทยาศาสตร์การกีฬา พยาบาล และผู้ช่วยพยาบาล) พร้อมปรับเปลี่ยนแผนฟื้นฟูตามพัฒนาที่เพิ่มขึ้นเสมอ

ส่งอาการเบื้องต้นให้เราช่วยประเมิน

ปรึกษากับทีมแพทย์และนักฟื้นฟูของเรา เพื่อให้คุณวางแผนได้อย่างมั่นใจ และตรงกับอาการมากที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

กิจกรรมบำบัดช่วยฟื้นฟูอะไรบ้าง?

  • ฟื้นฟูทักษะที่จำเป็นต่อการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การแต่งตัว การอาบน้ำ การรับประทานอาหาร
  • พัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวและการประสานงานของร่างกาย
  • ปรับปรุงทักษะการรับรู้และการคิด
  • ส่งเสริมทักษะทางสังคมและการสื่อสาร
  • จัดการกับความเครียดและความวิตกกังวล
  • ปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวม

กายภาพบำบัด เน้นการฟื้นฟูและพัฒนาการเคลื่อนไหวของร่างกายให้กลับสู่สภาพปกติหรือใกล้เคียงปกติที่สุด ในขณะที่กิจกรรมบำบัดจะเน้นการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ทักษะและความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม เช่น การรับรู้และความเข้าใจ การกลืน ความบกพร่องในการประมวลผลทางประสาทสัมผัส

  • เกมจับคู่สีหรือรูปทรง เพื่อพัฒนาการรับรู้ทางสายตา
  • เล่นเกมความจำ เช่น การจับคู่ภาพ
  • ฝึกกิจกรรมที่ใช้ในกิจวัตรประจำวัน เช่น การติดกระดุมเสื้อ แปรงฟัน อาบน้ำ

ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูการทำงานของสมอง อย่างกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิด และมีกฎกติกาชัดเจน เช่น หมากรุก หมากฮอต การต่อเลโก้ เป็นต้น