หลอดเลือดสมองโป่งพอง คือโรคอะไร รู้จัก 6 สัญญาณเงียบก่อนดับ

หลอดเลือดสมองโป่งพอง คือโรคอะไร รู้จัก 6 สัญญาณเงียบก่อนดับ
Table of Contents

หลอดเลือดสมองโป่งพอง (Cerebral Aneurysm) คือโรคอะไร โรคร้ายเหมือนระเบิดเวลาใกล้ตัวที่หลายคนไม่รู้ว่าอันตรายถึงชีวิต ใครจะไปคิดว่าแค่หลอดเลือดเล็ก ๆ ในสมองอาจกลายเป็นระเบิดเวลาที่พร้อมนำไปสู่ภาวะเลือดออกในสมองได้ตลอดเวลา แค่แตกหรือปริซึมเพียงครั้งเดียวอาจทำให้หมดสติหรือเสียชีวิตในไม่กี่วินาที บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จักเส้นเลือดสมองโป่งครบทุกมิติ โรคร้ายที่แทบไม่มีสัญญาณเตือนชัด ๆ พร้อมรู้ทัน 6 อาการเงียบที่อาจเป็นสัญญาณอันตรายของหลอดเลือดในสมองโป่งพอง รวมถึงสาเหตุและแนวทางป้องกันก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝัน

รู้จักโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง (Cerebral Aneurysm) คือโรคอะไร ทำไมถึงอันตรายกว่าที่คิด

หลอดเลือดสมองในโป่งพอง (Cerebral Aneurysm) หรือ Brain Aneurysm คือ ภาวะที่ผนังหลอดเลือดในสมองอ่อนแอและพองตัวออกเป็นกระเปาะคล้ายลูกโป่งเล็ก ๆ เมื่อความดันในหลอดเลือดสูงขึ้น ยิ่งกระตุ้นให้กระเปาะที่เกิดขึ้นมีโอกาสแตกได้ตลอดเวลา เมื่อเส้นเลือดสมองโป่ง จะทำให้เกิดภาวะเลือดออกในสมอง ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยหมดสติ หรือเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที

หลอดเลือดสมองโป่งพอง เกิดจากอะไร เปิด 9 สาเหตุหลัก ภัยร้ายที่ไม่เลือกอายุ

หลอดเลือดสมองโป่งพอง เกิดจากอะไร เปิด 9 สาเหตุหลัก ภัยร้ายที่ไม่เลือกอายุ

โรคเส้นเลือดโป่งในสมอง เป็นโรคสามารถเกิดได้กับทุกคน แถมส่วนใหญ่จะแฝงอยู่ในสมองเงียบ ๆ แทบไม่มีสัญญาณเตือน แต่พร้อมคร่าชีวิตได้จริงในไม่กี่วินาที ซึ่งเส้นเลือดในสมองโป่ง สาเหตุหลัก ๆ ไม่ได้เกิดจากอายุอย่างเดียว แต่ยังสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และพันธุกรรมโดยตรงด้วย ไม่ว่าจะเป็น

การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์

ไม่ว่าจะเป็น อาหารแปรรูป อาหารที่มีไขมันสูงอย่างอาหาร Fast Food รวมถึงเครื่องดื่มและอาหารที่มีน้ำตาลสูง ทั้งหมดล้วนกระตุ้นให้ระดับความดัน คอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือดสูงแบบพุ่งกระฉูด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและโรคอ้วน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพหลอดเลือดและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดสมองโป่ง

ความดันโลหิตสูง (Hypertension)

การที่หลอดเลือดมีระดับความดันสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งให้ผนังหลอดเลือดเริ่มเสื่อมสภาพ (สูญเสียความยืดหยุ่น) และเปราะบางง่ายกว่าเดิม ทำให้เกิดกระเปาะได้ง่ายยิ่งขึ้น 

ไขมันในเลือดสูง (Hyperlipidemia)

นอกจากความดันโลหิตสูงแล้ว ไขมันในหลอดเลือดสูงก็เป็นอีกตัวการหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดหลอดเลือดสมองโป่งด้วยเหมือนกัน เมื่อไขมันเริ่มเกาะผนังหลอดเลือดมากขึ้น จะส่งผลให้การไหลเวียนเลือดไม่สะดวก ทำให้แรงดันภายในหลอดเลือดบางจุดสูงขึ้นจนเกิดการโป่งพอง

พฤติกรรมการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

จากงานวิจัยหลายชิ้นในระดับโลก เผยว่า สารพิษจากบุหรี่ทำให้ผนังหลอดเลือดอักเสบและเสื่อมเร็วกว่าปกติ ในขณะที่การดื่มแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ทำให้ระดับแรงดันเลือดสูงขึ้นแบบเฉียบพลัน เพิ่มความเสี่ยงเส้นเลือดสมองโป่งหรือแตกได้ 

ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ (Traumatic Brain Injury)

เมื่อศีรษะได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง เช่น อุบัติเหตุรถยนต์ ลื่นล้ม หรือถูกของแข็งกระแทก อาจทำให้ผนังหลอดเลือดสมองบางส่วน ฉีกหรือช้ำ ทำให้เลือดเริ่มรั่วซึมหรือดันชั้นผนังหลอดเลือดออกมาทีละน้อย จนเกิดกระเปาะ และในบางกรณีร่างกายพยายามซ่อมแซมผนังหลอดเลือดด้วยเนื้อเยื่อใหม่ แต่เนื้อเยื่อที่สร้างขึ้นมาไม่สมบูรณ์ ทำให้หลอดบอบบางกลายเป็นจุดเปราะที่จะขยายตัวเรื่อย ๆ จากแรงดันเลือด จนเกิดเป็นเส้นเลือดสมองโป่งจากการบาดเจ็บ (Traumatic Intracranial Aneurysm) เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke) ได้หากไม่ได้รับการตรวจหรือรักษาก่อน

อายุและการพักผ่อน

เมื่ออายุมากขึ้น ผนังหลอดเลือดยิ่งเสื่อมตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ดูแลสุขภาพหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ

พันธุกรรมหรือกรรมพันธุ์

ผู้ที่ครอบครัวมีประวัติโรคทางพันธุกรรมที่สัมพันธ์กับเส้นเลือดโป่งในสมอง จะมีโอกาสเกิดโรคมากกว่าคนทั่วไป เช่น 

  • Polycystic Kidney Disease (PKD) : โรคถุงน้ำในไตชนิดพันธุกรรม พบว่าผู้ป่วยประมาณ 10–15% มีเส้นเลือดสมองโป่งพองร่วมด้วย
  • Ehlers–Danlos Syndrome : ความผิดปกติของเนื้อเยื่อคอลลาเจน ทำให้ผนังหลอดเลือดเปราะบาง
  • Marfan Syndrome : ความผิดปกติของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ส่งผลให้หลอดเลือดยืดและโป่งง่าย
  • Neurofibromatosis type 1 (NF1) : ทำให้เกิดเนื้องอกในระบบประสาท และบางรายพบหลอดเลือดสมองผิดปกติร่วมด้วย

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น หลอดเลือดในสมองโป่งพองแต่กำเนิด การใช้สารเสพติดบางชนิด (ยาบ้า โคเคน แอมเฟตามีน) การติดเชื้อในหลอดเลือด ภาวะหลอดเลือดแดงฉีกเซาะ เป็นต้น

7 สัญญาณหลอดเลือดสมองโป่งพอง โรคร้ายที่ไม่แสดงอาการชัดเจน แต่คร่าชีวิตได้จริง

7 สัญญาณหลอดเลือดสมองโป่งพอง โรคร้ายที่ไม่แสดงอาการชัดเจน แต่คร่าชีวิตได้จริง

โดยทั่วไป เส้นเลือดสมองโป่ง อาการจะไม่ชัดเจน หรือแทบจะไม่มีสัญญาณบ่งบอก ทำให้โรคเส้นเลือดสมองโป่งเป็นโรคที่เหมือนกับระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดตลอดเวลา เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่กำลังเผชิญอยู่อย่างไม่รู้ตัว หรือมีอาการเล็กน้อยมากจนไม่ได้สังเกต กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็อาจเกิดภาวะเลือดออกในสมองเฉียบพลันแล้ว โดยสัญญาณเตือนหลอดเลือดสมองที่พอสังเกตได้ ได้แก่

  • ปวดศีรษะรุนแรงที่สุดในชีวิต 
  • คลื่นไส้ อาเจียนบ่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มองเห็นภาพซ้อนหรือมัวลง
  • ลิ้นแข็ง ปากเบี้ยว
  • หนังตาตก หรือกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงครึ่งซีก 
  • ชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีก
  • หมดสติหรือชักโดยไม่ทราบสาเหตุ 

ใครบ้างที่เข้าข่ายเสี่ยงเป็นหลอดเลือดสมองโป่งพอง

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของ Cerebral Aneurysm คือ กลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงจะเป็นแต่ไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น

  • ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงเรื้อรัง (Hypertension) : ความดันที่สูงต่อเนื่อง จะทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนแอและโป่งพองได้ง่าย  โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ควบคุมความดันอย่างสม่ำเสมอ
  • ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์จัด : นิโคตินและแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดหดและขยายตัวผิดปกติ ส่งผลให้ผนังหลอดเลือดเปราะและแตกง่ายกว่าปกติ
  • เพศหญิง โดยเฉพาะวัยหมดประจำเดือน : ผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคมากกว่าผู้ชายประมาณ 1.5–2 เท่า  เนื่องจาก ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้ผนังหลอดเลือดสูญเสียความยืดหยุ่น
  • อายุ 40 ปีขึ้นไป : เมื่ออายุมากขึ้น ผนังหลอดเลือดจะเสื่อมและบางลงตามวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง
  • ผู้ที่เคยมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือการติดเชื้อในสมอง : อาจทำให้ผนังหลอดเลือดเสียหายและโป่งพองในระยะยาว
  • ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเส้นเลือดสมองโป่งพองหรือประวัติเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองในครอบครัว โดยเฉพาะญาติสายตรง (first degree relative) ตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป

เส้นเลือดในสมองโป่งพอง รักษาอย่างไร? อยู่ได้ไหมถ้ายังไม่แตก

แนวทางการรักษาเส้นเลือดโป่งในสมองจะขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง รูปร่างของหลอดเลือดโป่งพอง และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โดยแพทย์จะพิจารณาวิธีที่เหมาะสมที่สุด โดยหลัก ๆ จะมี 2 วิธี โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

การรักษาหลอดเลือดสมองโป่งพองด้วยการสวนหลอดเลือด (Endovascular therapy)

วิธีนี้จะเป็นการรักษาด้วยการสอดท่อขนาดเล็กเข้าไปทางหลอดเลือดแดงบริเวณขาหนีบหรือข้อมือ ไปจนถึงบริเวณที่พบเส้นเลือดสมองโป่ง และใส่ท่อตาข่าย เพื่อให้เลือดไหลเวียนผ่านท่อตาข่ายแทน

การรักษาหลอดเลือดสมองโป่งพองการผ่าตัดแบบเปิดเพื่อหนีบเส้นเลือด (Microsurgical aneurysm clipping)

ส่วนวิธีการการผ่าตัดแบบเปิดเพื่อหนีบเส้นเลือด เป็นการรักษาด้วยการผ่าตัดแบบเปิด เพื่อเข้าถึงบริเวณที่มีหลอดเลือดโป่งพอง โดยใช้กล้องผ่าตัดกำลังขยายขนาดสูง (Microscopic) จากนั้นจะใช้คลิปหนีบบริเวณคอของหลอดเลือดที่โป่ง เพื่อไม่ให้เลือดไหลไปในบริเวณมีเส้นเลือดโป่งพอง ช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดขยายมากขึ้นจนอาจแตกได้ 

การฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโป่งพอง หลังการรักษาอย่างปลอดภัย

การฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดสมองโป่งพอง หลังการรักษาอย่างปลอดภัย

หลังการรักษาโรคเส้นเลือดในสมองโป่งพอง ขั้นตอนการฟื้นฟูความสามารถของร่างกายถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การรักษา เพราะช่วยให้สมองกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงปกติ และลดโอกาสเกิดซ้ำในอนาคต โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการอ่อนแรง พูดไม่ชัด หรือการทรงตัวผิดปกติหลังผ่าตัด ควรได้รับการทำกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่เสียหายให้กลับมาประสานกับร่างกายได้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น

  • ควบคุมความดันโลหิตและไขมันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • เลือกอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ปลา และไขมันดี
  • ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดิน หรือโยคะ
  • ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ

หลอดเลือดสมองโป่งพอง ป้องกันได้ก่อนเสี่ยง 

ถึงโรคเส้นเลือดโป่งในสมองจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้แบบแทบจะไม่มีสัญญาณ แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถป้องกันได้ แถมสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมชีวิตประจำวัน แค่นี้ก็ช่วยลดโอกาสการเกิดหรือแตกของเส้นเลือดโป่งพองได้แล้ว โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

  • ควบคุมระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ด้วยการทานยาอย่างต่อเนื่อง และพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง และเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักและผลไม้
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์และสารเสพติดทุกชนิด 
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
  • ถ้าเป็นโรคหลอดเลือดในสมองโป่งพองอยู่แล้ว ควรติดตามอาการและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ พร้อมสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอาการปวดศีรษะที่รุนแรงและอาการผิดปกติทางระบบประสาท
  • ถ้าสมาชิกในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นเส้นเลือดสมองโป่งพอง ควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

หลอดเลือดในสมองโป่งพอง เป็นภัยเงียบที่อาจพรากชีวิตได้ในเสี้ยววินาที โดยไม่มีสัญญาณเตือนชัดเจน การรู้เท่าทันอาการ สาเหตุ และปัจจัยเสี่ยง จะช่วยให้ตรวจพบและรักษาได้ก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝัน และสำหรับใครที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นเส้นเลือดสมองโป่ง และมีอาการอ่อนแรง มีปัญหาเรื่องความจำ หรือการสื่อสาร และกำลังมองหาสถานที่ฟื้นฟูผู้ป่วยหลังผ่าตัด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

  • ศูนย์ PNKG Recovery and Elder Care ชั้น 2 โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ตั้งแต่เวลา 8:30 – 17:30 น. จันทร์ – เสาร์ (ปิดบริการวันอาทิตย์)
  • โทร : 080-910-2124
  • Line : PNKG
  • Facebook : PNKG Recovery and Elder Care

คำถามที่พบบ่อย

หลอดเลือดสมองในโป่งพอง (Cerebral Aneurysm) เกิดจากผนังหลอดเลือดสมองอ่อนแอ จนเกิดการบวมและโป่งออกคล้ายลูกโป่ง ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ จะเกิดจากความดันและไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ หรือเสพสารเสพติด การบาดเจ็บที่ศีรษะ โรคประจำตัว (PKD, NF1,​ Marfan Syndrome) และพันธุกรรม เป็นต้น

การผ่าตัดเส้นเลือดโป่งในสมองถือเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงสูง แต่จำเป็นในบางกรณี โดยเฉพาะเมื่อเส้นเลือดโป่งพองมีขนาดใหญ่ เสี่ยงแตก หรือแตกไปแล้ว เพราะหากไม่รักษา ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตจากเลือดออกในสมองได้  โดยการผ่าตัดไม่ได้อันตรายเกินไป หากทำโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงและมีโอกาสฟื้นตัวได้ใกล้เคียงปกติได้

ภาวะเส้นเลือดในสมองโป่งพอง (Cerebral Aneurysm) สามารถรักษาได้ ถ้าตรวจพบเร็วและรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง แต่การรักษาจะขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของหลอดเลือดที่โป่งพอง รวมถึงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยด้วย 

ส่งอาการเบื้องต้นให้เราช่วยประเมิน

ปรึกษากับทีมแพทย์และนักฟื้นฟูของเรา เพื่อให้คุณวางแผนได้อย่างมั่นใจ และตรงกับอาการมากที่สุด